บริษัท ที่ต้องการระดมเงินเพื่อพัฒนาโครงการของพวกเขาใน cryptoworld ตามธรรมเนียมปกติแล้ว จะทำผ่านการเสนอขายเหรียญเงินเบื้องต้น [ICO] ขณะนี้มีแนวโน้มอื่นเกิดขึ้นสำหรับผู้ที่ต้องการทำแบบนั้น ที่เรียกว่า the hard fork
การ fork ที่ไม่เคร่งคัด
Fork ในความหมายที่เข้มงวดนั้น หมายถึงการเปลี่ยนแปลงในโปรโตคอลของ cryptocurrency ที่ทำกับเวอร์ชั่นเก่าและเวอร์ชั่นใหม่ นักพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ใช้การเข้ารหัสลับแบบ cryptocurrency นั้นจะไม่ได้ประโยชน์ทางการเงินจริงๆ เพียงแต่แค่มีการเปลี่ยนแปลงด้านโปรโตคอลเท่านั้น ผู้ถือเหรียญ cryptocurrency เดิม(เช่น Bitcoin) จะได้เหรียญไว้ทั้งสองส่วนคือเหรียญเดิมและเหรียญใหม่ที่ ทำการ fork และสามารถนำมาใช้จ่ายได้ตามต้องการ
นี่เป็นความจริงในกรณีของ Bitcoin Cash -ที่มีการ Fork อย่างแท้จริงของ Bitcoin ที่มีบล็อกขนาดใหญ่ ในขณะที่นักพัฒนาซอฟต์แวร์เพิ่มขนาดบล็อก แต่เขาก็ไม่ได้รับผลประโยชน์ทางการเงินจากการสร้าง Bitcoin Cash อย่างไรก็ตามการ Fork ของเหรียญอื่น ๆ เช่น Bitcoin Gold มีองค์ประกอบของการ premining รวมอยู่ด้วย นักพัฒนาซอฟต์แวร์เริ่มต้นด้วย blockchain Bitcoin ณ จุดใดจุดหนึ่งของช่วงเวลา แล้วทำการขุดเหรียญในปริมาณบล็อคจำนวนหนึ่งสำหรับตัวเอง
ข้อดี – ได้รับฐานข้อมูลผู้ใช้
ข้อดีของการทำ split ของเหรียญ cryptocurrency ที่มีอยู่คือ คุณจะได้รับฐานขุ้อมูลผู้ใช้ที่ได้รับการยอมรับแล้ว ผู้ใช้ไม่ต้องทำอะไรเลย เพื่อเรียกร้องให้ได้เหรียญของตัวเอง นี่อาจเป็นดาบสองคมหากผู้ใช้เหล่านี้ตัดสินใจที่จะพากันเทขายเหรียญ “ฟรี” ของตน สำหรับนักพัฒนาสนใจในการระดมเงินผ่านการรวมกันของการ premine และ การ Fork, นี้อาจเป็นหายนะ ราคาเหรียญที่เขาขุดอาจมีค่าเป็นศูนย์ จากอุดมการณ์ในการ Pure Fork แต่นั่นมันไม่สำคัญหรอก ตลาดจะตัดสินจาก มูลค่าสัมพัทธ์ของเหรียญของพวกเขา และพวกเขาก็จะสนับสนุนเหรียญนั้นต่อไป
หน่วยงานกำกับดูแลควรจะมีปัญหาน้อย
ICOs ได้รับผลกระทบจากหน่วยงานกำกับดูแลทั่วโลก เพราะพวกเขาระดมทุนจากนักลงทุนโดย ไม่มีการป้องกันในสถานที่นั้นๆ การทำ hard fork อันที่จริงแล้ว เป็นการแจกโทเค่นฟรี ผู้กำกับดูแลก็ควรจะรองรับมากขึ้น แน่นอนนักลงทุนยังคงสามารถสูญเสียเงินได้ หากพวกเขาซื้อเหรียญเหล่านี้ในตลาดเทรดซื้อขายเหรียญ และต่อจากนั้นเกิดราคาตกลงมา
เจ้าหน้าที่ผู้ควบคุม ควรจะกังวลมากขึ้น มากกว่าสำหรับผู้ที่ทำ ICO แล้วเชิดเงินหายไปชั่วข้ามคืน ก.ล.ต. ได้ดำเนินการกับ ICOs หลายแห่ง, มีการโต้แย้งถกเถียงกันว่าโทเค่นของพวกเขาเป็นหลักทรัพย์ ประเทศอื่น ๆ เช่นเกาหลีใต้มีการควบคุม ICOs,อย่างเข้มงวดมาก ขณะที่ปล่อยให้มีการซื้อขาย cryptocurrency กันเอง
หน้าตาต่างๆของบิทคอยน์
เมื่อคุณมีตัวเลือกในการแยกตัวของ cryptocurrency ใด ๆ คุณควรแยกออกมา(Fork) กับฐานผู้ใช้ที่ใหญ่ที่สุด และมีมูลค่าตลาดใหญ่ที่สุด ความสำเร็จของ Bitcoin Cash ได้ก่อให้เกิดการลอกเลียนแบบใหม่ ๆ มากมายเช่น Bitcoin Gold, Bitcoin Silver, Bitcoin Diamond และ Super Bitcoin เลียนแบบน่าจะเป็นรูปแบบที่ดีที่สุด แต่ Bitcoin ไม่ต้องทำการ Fork มากมาย ปัญหาจะเลวร้ายยิ่งขึ้นถ้าราคาของ Bitcoin เพิ่มขึ้นและผู้เลียนแบบพยายามแสวงหาผลประโยชน์เพิ่มเติมจากแบรนด์ “Bitcoin”
Sol Lederer, ผู้อำนวยการ Blockchain ที่ LOOMIA เห็นด้วย:
“การ Fork เหล่านี้ไม่ดีสำหรับ Bitcoin เรากำลังมองหาการ Fork ที่เป็นไปได้ในวันที่ 25 ตุลาคม กับ Bitcoin Gold และอีกอันหนึ่งในเดือนถัดไปสำหรับ SegWit2x การอิ่มตัวของตลาดด้วย Bitcoin ในรูปแบบต่างๆทำให้ผู้ใช้เกิดความสับสน ในการอ้างว่่า Bitcoins มีจำนวนจำกัด เนื่องจากคุณสามารถทำการแตกหรือแยกเหรียญออกมาใหม่ๆได้ตลอดเวลา”
ขอบคุณแหล่งที่มา: cointelegraph
Admin: Franky