หากจะกล่าวถึงเทรนกระแสของสังคมในปัจจุบันคงไม่อาจปฏิเสธได้ถึงเทรนบล็อกเชนและการกระจายอำนาจจากศูนย์กลางออกไป โดยเริ่มจากทฤษฏีบล็อกเชนของผู้ใช้นามแฝงอย่างนายซาโตชิ นากาโมโตที่คิดค้นบิทคอยน์ขึ้นมาเมื่อปี 2008 โดยอิทธิพลทางความคิดได้แพร่กระจายออกไปในหลายอุตสาหกรรมซึ่งแน่นอนว่าเทคโนโลยีนี้ถูกนำมาใช้ในการถ่ายโอนมูลค่าตามมา

 

จากหลักการนี้เองส่งผลอิทธิพลทางความคิดและสร้างความเชื่อมั่นไปยังบุคคลต่างๆโดยทั่วไปในวงกว้าง โดยสำหรับประเทศไทยเริ่มมีกลุ่มชุมชุนที่เชื่อมั่นในระบบบล็อกเชนและระบบการกระจายศูนย์เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องแม้ว่ามูลค่าตลาดคริปโตโดยรวมจะลดลงหากแต่จำนวนคนที่เชื่อมั่นในหลักการกลับมาจำนวนเพิ่มมากขึ้นโดยสังเกตุจากคนที่ค้นหาความรู้ในด้านสกุลเงินดิจิทัลเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัดจนทาง ก.ล.ต. ต้องออกกฏระบบเบียบมาควบคุมเพื่อป้องกันมิจฉาชีพไซเบอร์ที่อาศัยช่องว่างของเทคโนโลยีมาหลอกลวงคนหน้าใหม่ที่ขาดความรู้ความเข้าใจในอุตสาหกรรมคริปโต

กลุ่มบุคคลกว่าหลายร้อยคนที่เชื่อมั่นในระบบบล็อกเชนและต้องการเรียนรู้กระแสเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่างเรื่องสกุลเงินดิจิทัลนำทีมโดยอาจารย์สาคร ใสกมล ประธานผู้ก่อตั้งบริษัท ดี เน็ทเวิร์ค เวิลด์ไวด์ จำกัด องค์กรชั้นนำในธุรกิจเครือข่ายในระดับประเทศ พร้อมทีมงานกว่าหลายร้อยชีวิตที่ประสบความสำเร็จในแวดวงธุรกิจเครือข่ายได้มองเห็นถึงกระแสของเทคโนโลยีบล็อกเชนและพร้อมจะส่งต่อความรู้ความเข้าใจให้แก่บุคคลในองค์กรให้ก้าวทันเทคโนโลยีและโลกของสกุลเงินดิจิทัลโดยได้สร้างศูนย์การเรียนรู้ที่ชื่อว่า Cryptogen ขึ้นมา

การเข้ามาในอุตสาหกรรมคริปโตเริ่มจากวิสัยทัศน์ที่ก้าวไกลของอาจารย์สาคร ใสกมล ที่เล็งเห็นถึงโอกาสและการเปลี่ยนแปลงของบล็อกเชนและบิทคอยน์ จากกลุ่มผู้สนใจหน้าใหม่เริ่มกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญในวงการและพร้อมส่งต่อความรู้ความเข้าใจในเทคโนโลยีและระบบสกุลเงินดิจิทัลแก่บุคคลทั่วไป โดยทางชุมชน Cryptogen มีการจัดอบรมความรู้ความเข้าใจในเรื่องบล็อกเชนเทคโนโลยีและเรื่องของสกุลเงินดิจิทัลรูปแบบ workshop ที่อาคารวาฬทองแก่ผู้สนใจทุกวันอาทิตย์

 

ด้วยความพยายามในการผลักดันอุตสาหกรรมคริปโตในไทยให้ก้าวหน้าไปในทิศทางที่ถูกต้องและสร้างความรู้ความเข้าใจแก่ชุมชนรวมถึงนักลงทุกทั่วไปไม่ให้ตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพดิจิทัลที่อาศัยช่องว่างความไม่รู้ในเทคโนโลยีมาหลอกลวง โดยมีการจัดงานสัมนาครัั้งใหญ่ที่มีผู้เข้าร่วมฟังมากกว่า 500 คนมาแล้วถึงสองครั้ง โดยในงานได้มีการเชิญบุคคลากรที่มีความเชี่ยวชาญในวงการคริปโตของไทยมาให้ความรู้ความเข้าใจแก่กลุ่มชุมชนที่มีสมาชิกกว่าหลายร้อยคน เพื่อสร้างองค์ความรู้และฐานชุมชนที่มีองค์ความรู้ในด้านคริปโตอย่างถูกต้อง

Cryptogen เกี่ยวข้องอย่างไรกับ Happycoin

ด้วยวิสัยทัศน์ที่เล็งเห็นถึงเทรนของอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโตและด้วยจิตใจที่อยากสนับสนุนเหรียญที่เกิดจากแนวคิดของคนไทยด้วยกันเพื่อให้เหรียญก้าวไกลและเป็นที่รู้จักทั่วโลกได้มากขึ้น ทางอาจารย์สาคร ใสกมลจึงเลือกเหรียญ Happycoin เป็นตัวอย่างในการเผยแพร่ความรู้ระบบบล็อกเชนและการปรับตัวสู่กระแสเทคโนโลยีใหม่ในอนาคต โดยชื่อ Cryptogen ยังมีความหมายที่แฝงอยู่คือ Crypto Generation ซึ่งหมายถึงกลุ่มคนยุคใหม่ที่เกิดในยุคคริปโต นอกเหนือจากนี้ในอนาคตยังมีแผนการทำงานและการพัฒนาที่จะเข้ามาร่วมผลักดันอุตสาหกรรมบล็อกเชนและคริปโตในประเทศไทยอีกด้วย ซึ่งคงต้องติดตามรายละเอียดกันต่อไป โดยผู้อ่านสามารถเข้าไปเยี่ยมชมรายละเอียดของกิจกรรมต่างๆที่ทาง Cryptogen จัดขึ้นทางเพจหลักโดย <คลิกที่นี่>