Sir Jon Cunliffe,รองผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศอังกฤษ, อ้างว่า Bitcoin เหรียญคริ๊ปโตชั้นแนวหน้านั้น จะไม่มีภัยคุกคามที่แท้จริง ต่อเศรษฐกิจโลก และสถาบันการเงิน แม้ว่า Bitcoin จะได้สร้างผลงาน ที่เป็นประจักษ์แล้วในปัจจุบัน สกุลเงินดิจิทัล ที่โด่งดังที่สุดตัวนี้ ได้วิ่งทะลุระดับ 11,000 ดอลลาร์ ไปเรียบร้อยแล้ว เมื่อปลายเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2560 ที่ผ่านมา
ในการให้สัมภาษณ์กับ BBC Radio 5 Live Cunliffe ให้เหตุผลว่า Bitcoin ยังมีขนาดวอลลุ่มในตลาด น้อยเกินไป ที่จะเป็นภัยคุกคามต่อเศรษฐกิจทั่วโลก เขาเสริมว่า นักลงทุนควรวิเคราะห์อย่างละเอียด ถึงเหตุผลที่ทำให้สกุลเงินเสมือน สร้างปรากฎการณ์ขึ้นมาแบบนี้เป็นเพระอะไร เพื่อจะได้มองเห็นอย่างเข้าใจ และ ลดความเสี่ยงของตัวเองได้
“ด้วยขนาดการเติบโตของบิทคอยน์ในขณะนี้ ยังไม่สามารถ สร้างความเสี่ยงต่อเศรษฐกิจมหภาคเพื่อเศรษฐกิจโลกได้ แต่เมื่อ ราคามีการเคลื่อนไหวแบบนั้น ในมุมมองส่วนตัวของผม นักลงทุนจะต้องทำการบ้านของพวกเขา นี่ไม่ใช่สกุลเงินที่ยอมรับได้ ไม่มีธนาคารกลางที่ยืนอยู่ข้างหลังมัน สำหรับผมแล้ว มันก็เหมือนสินค้าโภคภัณฑ์ตัวนึง”
Bitcoin กำลังพุ่งแรง
Bitcoin ได้มีการปรับขึ้นราคาสูงขึ้นเป็นประวัติการณ์ ในช่วงสองสามสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ทำให้นักวิเคราะห์ และผู้เชี่ยวชาญหลายคน คาดการณ์ว่าจะมีการเติบโตอีกมากในอนาคต นักลงทุนที่รู้จักกันดีและมหาเศรษฐี Mike Novogratz ได้ทำคาดการณ์อีกครั้งว่า Bitcoin จะมีราคาสงแตะที่ 40,000 เหรียญ ในอีก 13 เดือนข้างหน้า หลังจากที่เขาได้ประสบความสำเร็จในการคาดการณ์ว่า สกุลเงิน Cryptocurrencies จะทะลุ 10,000 ดอลลาร์ภายในหกสัปดาห์
ในการทำนายของนาย Tom Lee นักยุทธศาสต และผู้ร่วมก่อตั้ง Fundstrat Global Advisors, กล่าวว่า Bitcoin สามารถเข้าถึงราคา 100,000 ดอลลาร์ต่อโทเค็นได้ หากมีส่วนแบ่งในตลาด 10-15% ของตลาดทองคำ
“เราคิดว่าในอีก 10 ปีข้างหน้านี้ ยุคคนรวยรุ่นใหม่ๆ จะให้ความไว้วางใจ Bitcoin มากกว่าทอง ดังนั้น Bitcoin จึงเรียกได้ว่า เป็นทองดิจิตอลสำหรับคนรุ่นใหม่ “
ขอขอบคุณแหล่งที่มา: Joshua Althauser
Admin: Franky