เทคโนโลยี Blockchain มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆมากมายในชีวิตของเราภายในไม่กี่ปีต่อไปนี้ และนั่นคือ ทำไมผู้นำทางเทคโนโลยี บิทคอยน์ จึงยังเป็นที่ชื่นชอบของนักลงทุนทั่วโลก
ในขณะที่มีการอภิปรายเปิดกว้างในการพูดเกี่ยวกับ คริ๊ปโตเคอร์เรนซี่ว่าอันไหนเป็น Cryptocurrencies ที่ดีที่สุดในอนาคต และปัจจุบัน มองถึงความต้องการแล้ว เป็นที่ชัดเจนว่า Bitcoin ได้ขึ้นมาอยู่แถวหน้าสุด Bitcoin ถือว่ามีอิทธิพลอยู่ในอันดับต้นๆ มีความเหลื่อมล้ำในยอดเงินทุนระหว่างอันดับหนึ่ง กับ อันดับสอง มากถึง $100 พันล้านเลยทีเดียว
ช่องว่างนี้จะขยายตัวต่อหรือ Bitcoin จะหยุดพักหรือไม่? ลองมาค้นหาคำตอบกัน
BTC/USD
เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายนที่ผ่านมา Bitcoin ได้ลดลงถึงจุดต่ำสุดที่ 5,450.86 เหรียญ แต่ในช่วงแปดวันนี้เหรียญ cryptocurrency ได้เพิ่มขึ้นมากกว่าร้อยละ 50 ซึ่งแสดงถึงความต้องการในระดับที่ต่ำลง
ขณะที่ Bitcoin ยังคงทำราคาสูงใหม่ได้ต่อเนื่อง มันยากที่เป็นเป็นขาลง อย่างไรก็ตามกราฟปัจจุบัน มีการซื้อขายภายในช่องที่เพิ่มขึ้น มูลค่าเหรียญคริ๊ปโต้ เข้ามาอยู่ใกล้กับเส้นแนวต้านทานของแชลแนล คาดว่าจะได้รับการทำกำไรได้ที่ประมาณ 8,500 เหรียญ อย่างไรก็ตาม หากกราฟวิ่งทะลุผ่านแนวต้านไปได้ อาจไปถึงที่ $9,969 และอาจเลยขึ้นไปถึงระดับ $11,068 เพื่อให้สามารถเข้าถึงเป้าหมายทั้งสองระดับนี้ Bitcoin จะต้องมีไต่ขึ้นถึง 21% และ 35% จากระดับปัจจุบัน
หากไม่สามารถผ่าานแนวต้านไปได้ Bitcoin ก็มีแนวโน้มลดลงเหลือ 8,000 เหรียญ และจากนั้นอาจจะลงมาถึงระดับ 7,420 เหรียญฯ การเบลคต่ำกว่า 8,000เหรียญ จะเป็นจะได้เวอร์เจ้นท์เปลี่ยนเทรนด์ลงมา
ให้พิจารณาแนวต้านตาม channel กับการบ่งชี้การลดลงของ RSI น่าจะเป็นไอเดียที่ดีกว่า การเฝ้าดูกราฟในการเทรดในปัจจุบันอย่างเดียว
ETH/USD
เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายนที่ผ่านมาได้เสนอให้ซื้อ Ethereum เมื่อทะลุผ่าานและมายืนเหนือระดับ 315 ดอลลาร์ได้ ในการซื้อขายที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน
ฉันได้แนะนำการตัดกำไร 50 เปอร์เซ็นต์ที่ 367 เหรียญ และก็ไปตัดกำไรณ.จุดระดับนี้เมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน เราก็ยังถือส่วนที่เหลืออยู่อีก 50 เปอร์เซ็นต์ ก็ควรตั้งจุด sl และ จุดที่จะเบรคผ่านไปได้ เพราะ Ethereum สามารถไปต่อได้ถึง 378 เหรียญ
ในระดับนี้การวิ่งของเหรียญบนกราฟ จะเผชิญกับแนวต้านจากเส้นแนวโน้มขาลงรูปสามเหลี่ยมได้ อย่างไรก็ดี ถ้าหากทะลุทะลวงออกมาและทะลุระดับนี้ราคาจะเพิ่มขึ้นสู้เป้าหมายได้
เมื่อมีการเบรคเอ๊าแพทเทิร์นสามเหลี่ยมไปได้ จะไปที่ $645. เราก็จะนั่งมองดูอย่างเพลิดเพลิน รอเวลาให้มันเบรก โดยการตั้ง sl เอาไว้ ที่จะ break out นั่นเอง
BCH/USD
Bitcoin cash เป็นกระแสที่นิยมของเหล่านักเทรดมากมาย มันมีความผันผวนอย่างมาก แต่ก็คิดว่าต่อจากนี้จะมีความผันผวนที่น้อยลง
กราฟขาขึ้น bull และขาลง bear ดูเหมือนจะยังชั่งใจกัน กำลังต่อสู้ทั้งสองฝั่งว่าจะออกมาทางไหน ในขณะที่สกุลเงินดิจิทัลมีแนวโน้มที่จะยังคงอยู่ในกรอบที่วางไว้ ระหว่าง $ 850 ถึง $ 1,550 นี่คือช่วงห่างที่ใหญ่ ซึ่งสามารถทำการซื้อขายได้ เราก็รอเก็บที่ $ 850 เพื่อทำการเข้าซื้อ
หรือไม่ก็ หากราคา cryptocurrency ขึ้นมาอยู่ที่ 1,550 เหรียญมีแนวโน้มที่จะขึ้นไปถึงระดับ 2,249 เหรียญ ดังนั้นขอแนะนำให้มีการซื้อขายใกล้ถึงจุดต่ำสุดของช่วงที่ระดับ 850 เหรียญหรือ ช่วงดีดตัวขึ้นเหนือระดับ 1,549 เหรียญ
XRP/USD
เมื่อวันที่ 13 พฤศจิกายนที่ผ่านมาได้แนะนำให้เข้าซื้อ Ripple เมื่อทำการ break out และมาปิดช่วงแคบๆ ที่ 0.18 ถึง 0.22 เหรียญ
ในวันที่ 16 พ.ย. ราคาทะลุขึ้นมาเหนือเส้นแนวโน้มขาลงเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่และแนวรับแนวต้านที่. 0.022
ราคาปิดที่ 0.22713 ดอลลาร์ ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของเรา
ขณะที่ข้อเสนอแนะการตั้ง SL เริ่มต้นของฉันคือ 0.17 ดอลลาร์ เพื่อต้องการลดความเสี่ยงดังนั้นฉันจะเลื่อน stop loss มาที่ระดับ $ 0.20
เป้าหมายกำไรของฉันอยู่ที่ระดับ $ 0.30 อย่างไรก็ตามมีความเป็นไปได้ที่ Ripple จะทะลุ 0.3 ดอลลาร์ และไปต่อจุดสูงของช่วงเวลาผมคิดว่าการจองกำไร 50 เปอร์เซ็นต์ที่ 0.3 เหรียญ และถือครองส่วนที่เหลือ ด้วยการมี sl ที่ break out
LTC/USD
ฉันแนะนำตำแหน่งการซื้อ ที่ 60.4 ดอลลาร์เมื่อ 13 พ.ย. เมื่อ Litecoin ได้เบรกเอ๊าท์ ออกจากช่วงของ $ 44 ถึง $ 57
ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 71 เหรียญ ระดับที่ได้รับในวันที่ 16 พฤศจิกายน แนะนำให้ขายตำแหน่งเพียงร้อยละ 50 ตามเป้าหมาย เพราะผมคาดว่าการวิ่งของราคา จะขยายไปสู่ระดับ 82 เหรียญ เราจะเปลี่ยนมุมมอง หาก ราคาปรับกลับมาอยู่ใน rank ให้คิดเกี่ยวกับการรักษา SL บนตำแหน่งที่ breakeven เอาไว้ เมื่อ Litecoin พ้นจากราคาเกินกว่า 75 เหรียญแล้ว เราจะเลื่อน stop loss ไปที่ 64 เหรียญ
ขอบคุณแหล่งที่มา: cointelegraph
Admin: Franky